พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
เหรียญหลวงปู่มั...
เหรียญหลวงปู่มั่น รุ่น ลายเซ็นต์ วัดเจดีย์หลวง
เหรียญหลวงปู่มั่น รุ่น ลายเซ็นต์ พ.ศ. 2546 วัดเจดีย์หลวง บล็อควัดป่าดาราภิรมย์ สภาพสวย พิธีดี หลวงตามหาบัว อธิฐานจิตพร้อมกับพระสายหลวงปู่มั่นและสายเหนือ ๓๕๐ รูป
เหรียญหลวงปู่มั่น รุ่น ลายเซ็นต์ พ.ศ. 2546 วัดเจดีย์หลวง สภาพสวย พิธีดี เป็นเหรียญรุ่นที่หลวงตาม หาบัวอธิฐานจิต แน่นอนครับ

พ่อแม่ครูอาจารย์ผู้ปลุกเสก หลวงตามหาบัว หลวงปู่จันทร์ หลวงพ่อประสิทธิ์ หลวงปู่ท่อน หลวงพ่อวิริยังค์ หลวงปู่ละมัย หลวงปู่บุญหนา หลวงปู่เพียร หลวงปู่ลี และเกจิสายป่าฯลฯ รวม 350 รูป พุทธคุณที่เขาว่าถึงประสบการณ์คือใช้ถอนมนต์ดำคุณกระทำผีร้ายต่างๆตลอดจนหนุนดวงมีโชคลาภ มีเมตตามหานิยม และแคล้วคาดปลอดภัย ใช้ดีจนไม่ค่อยพบเห็นในเว็ปและนอกเว็ปครับ เนื้อนวโลหะ นอกจากนี้ยังผสมชนวนเหรียญ ป มาลากุล ที่เชื่อว่าหลวงปู่มั่นท่านได้อธิฐานจิตเหรียญรุ่นนี้ด้วยครับ

เหรียญ”ลายมือลายเซ็น”หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่"พุทธวงศ์"ได้สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2546 ซึ่งนับเป็น รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ ที่ได้อัญเชิญ”ลายเซ็น” และ”ลายมือ”บันทึกธรรม ตลอดจน”อักขระยันต์หัวใจยูงทอง”แท้ๆ ที่หลวงปู่มั่น ได้เขียนไว้ด้วยองค์เอง มาบรรจุไว้ในเหรียญ”ภูริทัตโตอนุสรณ์”อย่างสมบูรณ์แบบและสวยงามที่สุด อย่างที่ไม่อาจจะหาเหรียญหลวงปู่มั่น รุ่นใดๆ มาเสมอเหมือนได้
ด้านหน้า จะแกะเป็นรูปหลวงปู่มั่น ครึ่งองค์ แวดล้อมด้วยอักขระยันต์ “นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุติยา” พร้อมด้วยลายเซ็น”พระภูริทัตตเถร” ลายมือดั้งเดิมของท่านเองแท้ๆ
ส่วนด้านหลัง ได้อัญเชิญลายมือ”บันทึกธรรม”ของหลวงปู่มั่น ที่ว่าด้วยเรื่อง”ขันธวิมุติสมังคีธรรม” มาประดิษฐานเป็นมหา”ธรรมมงคล”อันสูงสุดไว้จนเต็มเนื้อที่ อย่างสวยงามและได้อารมณ์แห่ง”ความหลุดพ้น”อย่างเต็มๆ ชนิดที่ไม่ต้องไปหาอะไรที่จะยิ่งกว่าได้อีกแล้ว
แม้เหรียญ”ลายมือลายเซ็น”รุ่นนี้ จะมีเนื้อทองคำ,เนื้อเงินเป็นพิเศษก็จริง แต่ก็มีเฉพาะเหรียญเนื้อนวโลหะและเนื้อทองผสม ที่ได้ผสมชนวนเหรียญ”ป.มาลากุล”อย่างแท้จริง
ส่วนพิธีการมังคลาภิเษกเหรียญลายมือลายเซ็น”ภูริทัตโตอนุสรณ์”รุ่นนี้ ได้กระทำอย่างพิเศษและยิ่งใหญ่ที่สุดโดยได้อัญเชิญเหรียญทั้งสิ้นขึ้นประดิษฐานข้างมณฑป”ทันตธาตุ” ของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ที่วัดเจดีย์หลวง จ. เชียงใหม่ ในมหาพิธียกช่อฟ้าพระวิหารพระอาจารย์มั่น เมื่อปีพ.ศ.2546 โดยพระวิหารหลังนี้ ได้สร้างทับตรงบริเวณที่พระอาจารย์มั่นเคยมาพำนักปฏิบัติธรรมสมัยที่ตามท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) มาที่วัดเจดีย์หลวงเพื่อราวปีพ.ศ. 2484

มหาพิธีในครั้งนั้น มีพระมหาเถรานุเถระอาวุโสที่เป็นศิษย์”สายตรง”ในท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต จำนวนมากอย่างเต็มรูปแบบไม่ต่ำกว่า 108 รูปด้วยกัน โดยได้รับความเมตตาจากท่านพระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี พระอริยเจ้าผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐสุดและเป็นศิษย์ที่ใกล้ชิดท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโตมากและนานที่สุดองค์หนึ่งเป็นองค์ประธานอธิษฐานจิตและยกช่อฟ้าด้วยองค์ของท่านเอง
เหรียญ”ภูริทัตโตอนุสรณ์” ซึ่ง"พุทธวงศ์"ได้ดำเนินการออกแบบ,จัดสร้างถวายเป็นอนุสรณ์ดังกล่าว ได้อัญเชิญไปประดิษฐานโยงสายสิญจน์อยู่ประชิดติดกับบุษบกที่ประดิษฐาน”อัฐิธาตุ”และ”ทันตธาตุ”ฟันกราม ของหลวงปู่มั่น ในพระวิหารซึ่งสร้างทับบริเวณ”กุฏิเก่า”ที่ท่านพระอาจารย์มั่น ได้เคยมาพำนักบำเพ็ญภาวนา อันเป็น”จุดศูนย์กลาง”แห่ง”มหาพลัง”และ”มหาบารมี”แห่งบรมพิธีทั้งปวง อันจะหาใดอื่นมาเสมอเหมือนมิได้อย่างแน่แท้ มีพระมหาเถระนุเถระทั้งสาย”กรรมฐาน”และ”เมืองเหนือ”ร่วมเจริญพระพุทธมนต์สมโภชโมทนาจำนวนมากถึง 350 รูปด้วยกัน แลดูอลังการละลานตาละลานใจไปทั่ว โดยมีท่านเจ้าคุณพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน แห่งวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี พระอัครอรหันต์เจ้าแห่งสยามประเทศ ซึ่งเป็นศิษย์ที่ใกล้ชิดที่สุดและรับถ่ายทอดปฏิปทาจากองค์หลวงปู่มั่นมามากที่สุดเป็น”องค์ประธาน”ในการพิธีทั้งปวงอย่างดียิ่งและสมบูรณ์แบบที่สุด
ทั้งนั้น เห็นจะเป็นทั้งในส่วนแห่งความ”กตัญญูผูกพัน”ส่วนตัวกับ”พ่อแม่ครูอาจารย์มั่น” ที่ลึกซึ้งยิ่งใหญ่อย่างไม่มีที่สิ้นสุดประการหนึ่ง
และทั้งด้วยฐานะที่ท่านหลวงตามหาบัวนั้น มีความผูกพันในฐานที่เป็น”ตุ๊เจ้าหลวง”ซึ่งเป็น”ศิษย์เก่า”ของวัดเจดีย์หลวงนี้มาแต่เดิมอีกประการหนึ่ง.....
เพราะท่านได้เล่าเรียนปริยัติธรรมจนสำเร็จเปรียญ 3 ประโยค จนได้ชื่อนำหน้าว่าเป็น”มหา” ก็บ่แม่นที่แผ่นดินอีสานบ้านเกิดของเพิ่นแต่อย่างใด
แต่”ตุ๊เจ้าหลวงบัว”ได้กลายเป็น”พระมหาบัว” กลับเป็นที่สำนักเรียนของ “วัดเจดีย์หลวง” ด้วยเหตุนี้ จึงไม่เป็นที่น่าแปลกและอัศจรรย์อันใดเลย ที่หลวงตามหาบัวท่านจะได้อธิษฐานจิต ”ทำน้ำมนต์”ในมหาพิธีนี้ให้อย่างเนิ่นนานเป็นพิเศษยิ่งกว่าพิธีใดๆทั้งสิ้น
ซ้ำท่านก็ยังได้”เป่า”ลมปราณสลับกับการเจริญพุทธคาถาลงในขันน้ำมนต์ศิลา ที่ผูกสายสิญจน์โยงไปถึงพระวิหารปู่มั่นและเหรียญ”ภูริทัตโตอนุสรณ์”นี้ถึง “3 ”ครั้ง 3 ครา สำทับให้อีกต่างหากด้วย!!!
ไม่เคยพบ ไม่เคยเห็นจากที่ใดมาก่อนเลย
จากนั้น เมื่อถึงคราวยกช่อฟ้าวิหารหลวงปู่มั่น เมื่อหลวงตามหาบัวผูกผ้าสีปิดทองที่ช่อฟ้าแล้ว ท่านก็เรียกหา”น้ำมนต์”ที่ท่านทำไว้เมื่อกี้ในทันที.........
เรื่องตอนนี้ เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ใน”ญานหยั่งรู้”ของหลวงตามหาบัวโดยแท้ โดยท่านพระครูปลัดสุวัฒนวรคุณ วัดป่าดาราภิรมย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นศิษย์ใกล้ชิดในท่านเจ้าคุณพระพุทธพจนวราภรณ์ (จันทร์ กุสโล) (ซึ่งเป็นศิษย์หลวงปู่มั่นและเป็นสหธรรมิกใกล้ชิดกับหลวงตามหาบัวมาแต่เดิม)เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวง องค์ปัจจุบันได้เล่าให้ผู้เขียนฟังว่า
”ตอนแรกนั้น หลวงตาท่านถามหาน้ำมนต์เพื่อมาพรมช่อฟ้า เจ้ารุ่ง(ศิษย์วัด)ไปคว้าเอาขันน้ำมนต์ที่ไหนมาก็ไม่รู้มาให้ หลวงตามหาบัวพอมองดูแล้วก็บอกปัดทันทีเลยว่า นี่ไม่ใช่น้ำมนต์ที่ท่านทำเมื่อกี้ ให้ไปเอาน้ำมนต์ของจริงที่ท่านเพิ่งทำมาให้เสียโดยทันที เลยต้องวิ่งกลับไปเอาขันน้ำมนต์แท้ๆมาแทนกันแทบไม่ทัน น่าอัศจรรย์ใจแท้ๆ ที่น้ำมนต์ธรรมดาๆ หลวงตาก็ยังรู้ได้ว่า นี่ไม่ใช่น้ำมนต์ที่ท่านทำ......”
”ตาใน”อันแจ่มใสของท่านหลวงตาพระมหาบัว ช่างน่ามหัศจรรย์โดยแท้
ก็ความ”พิเศษสุด”แห่งน้ำมนต์ที่ท่านเพิ่งทำสดๆเมื่อสักครู่ดังกล่าว คงจะ”ยูนีค”(unique)จนไม่อาจจะเอาน้ำมนต์อื่นใดมาทดแทนเป็นแน่
เผลอๆ “พระธรรมธาตุ”ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตตมหาเถระ จะได้รับการอัญเชิญมาสถิตเสถียรพร้อมกันนี้ด้วย ก็อาจเป็นไปได้อย่างยิ่งเลยทีเดียว
และตอนที่หลวงตามหาบัว ท่านกำลังยกช่อฟ้าพระวิหาร หลวงปู่มั่นอยู่นั่น ก็ได้ปรากฏเหตุอัศจรรย์ขึ้นอีกครา
ภาพๆหนึ่ง ที่ถ่ายในโอกาสบัดเดี๋ยวนั้น ปรากฏแสงรัศมีเป็น”สีรุ้ง”พุ่งวาบผ่านช่อฟ้าจากดวงอาทิตย์มา เห็นได้ถนัดตา น่าตื่นตาตื่นใจเป็นนักๆ
หากจะว่า เป็นแสงแดดยามบ่ายย้อนมา ก็อาจจะว่าได้
แต่เหตุที่น่าสงสัยก็คือ ทำไม จึงมีประกายสีรุ้งเจิดจ้าแต่เพียง”แถบเดียว”เป็นหลักใหญ่เท่านั้น
บริเวณขอบข้างอื่นๆ หามีไม่
แต่การดังนี้ ”ผู้รู้”ที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวได้ให้อรรถาธิบายในทันทีเลยทีเดียวว่า

และเมื่อหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนยกช่อฟ้าวิหารพระอาจารย์มั่นเสร็จ หลวงตามหาบัวถึงกับเทศน์ออกไมค์ต่อหน้าผู้คนนับพันที่มาร่วมพิธีในครั้งนั้นเลยทีเดียว อันมีใจความว่า
“ในพิธีอันเป็นมหามงคลในครั้งนี้ ได้มีเทวดามาร่วมอนุโมทนาสาธุการเต็มไปหมด ไม่ต่างอะไรกับตอนที่พระอาจารย์มั่นจะเดินทางกลับจากเชียงใหม่ไปยังภาคอีสานบ้านเกิดสมัยนั้น ท่านพระอาจารย์มั่นก็เคยบอกไว้เช่นกันว่า มีเทวดาเมืองเชียงใหม่มาส่งท่านด้วยความอาลัยอาวรณ์มากมายจนเหลือที่จะคณานับ แม้ในวันนี้ เทวดาก็มาร่วมอนุโมทนาในการยกช่อฟ้าวิหารพระอาจารย์มั่นมากดุจเดียวกัน..!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
หรือว่า ในมหาพิธีบรรจุพระทันตธาตุและยกช่อฟ้าวิหารพระอาจารย์มั่นในครานี้ “ท่าน”จะมาร่วมอนุโมทนาสาธุการด้วยจริงๆ???????
แต่....”หน่วยสืบราชการลับ”(ทางจิต) ซึ่งมีความแม่นยำสูงบางท่านก็กล่าวรับรองเมื่อได้สัมผัสพลังภายในเหรียญรุ่นนี้อย่างน่าตื่นตะลึงลานไม่น้อยว่า
“เหมือนกับพระอาจารย์มั่นมาอธิษฐานด้วยองค์เองเลย...!!!!!????!!!!!”
สมแล้ว ที่แม้แต่คุณสุธันย์ สุนทรเสวี สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสงคราม นักสร้างพระมือดีแห่งยุคยังต้องออกวาจาการันตีเหรียญ”ลายมือลายเซ็น” รุ่นนี้เลยทีเดียวว่า
“เหรียญรุ่นนี้ มีพลังเทียบเท่ากับเหรียญมั่นเสาร์รุ่นแรก (ที่กล่าวกันว่า พระอาจารย์มั่นได้อธิษฐานจิตด้วยองค์ของท่านเอง) เลยทีเดียวนะ..!!!!!!!!”
นึกหาสาเหตุด้วยใจที่เป็น “กลาง” แบบไม่เข้าข้างตัวเองอย่าง”เที่ยงธรรม”และ”ไม่อุตริมนุสธรรม”มากเกิน ก็พอที่จะอนุมานได้ว่า
“เหตุที่เหรียญลายมือลายเซ็นรุ่นนี้ มีพลังเหมือนกับพระอาจารย์มั่นมาอธิษฐานด้วยองค์เอง หรือ มีพลังเทียบเท่ากับเหรียญมั่นเสาร์รุ่นแรกนั้น อาจจะเกิดจากการที่ได้อัญเชิญเหรียญนี้ตั้งประชิดติดกับมณฑปพระทันตธาตุแห่งท่านพระอาจารย์มั่น ในมหาพิธีที่สุดยิ่งใหญ่ ซึ่งมีหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ศิษย์หัวแก้วหัวแหวนของท่านพระอาจารย์มั่นเป็นประธานกระมัง?????”
แต่...ก็ไม่ได้ตัดประเด็นที่ว่า “พระอาจารย์มั่น ท่านมาด้วย”ทิพยสภาวะ”หรือ “ธรรมธาตุ”(จิตพระอรหันต์ที่ดับขันธ์ไปแล้ว) จริงๆ.!!??!!
อนึ่ง เหรียญภูริทัตโตอนุสรณ์นี้ ได้มี 3 บล็อคหลังด้วยกัน แต่เข้าพิธีวัดเจดีย์หลวงพร้อมกันทุกแบบ เรียงจากซ้ายไปขวาดังนี้
1.บล็อค"พุทธวงศ์"(ธรรมขันธวิมุตติสมังคีล้วน) มีเนื้อทองคำ,เงิน,นวโลหะ,ทองผสม
2.บล็อควัดป่าดาราภิรมย์ (ที่ระลึกฉลองวิหารหลวง) มีเนื้อเงิน,ทองแดงรมดำ
3.บล็อควัดป่าศาลาปางสัก ดอยสะเก็ด เชียงใหม่ สร้างเป็นเนื้อทองแดงรมดำเนื้อเดียว
ผู้เข้าชม
1671 ครั้ง
ราคา
1800
สถานะ
ยังอยู่
โดย
ชื่อร้าน
พุทธพิมพ์
ร้านค้า
โทรศัพท์
ไอดีไลน์
tuonly , 0818158299
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกรุงเทพ / 146-0-55888-3
2. ธนาคารไทยพาณิชย์ / 406-5-16595-4

ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
เจริญสุขทองธนบุรีsakunchartยอด วัดโพธิ์ponsrithong2พล ปากน้ำ
swatfrank_tumErawanเซียนtermboonsadao
เปียโนBAINGERNep8600somphopchathanumaannatthanet
Pumneehoppermanนรินทร์ ทัพไทยปลั๊ก ปทุมธานีเนินพระ99chaithawat
chaokohบ้านพระสมเด็จjochoNithipornvanglannasblom

ผู้เข้าชมขณะนี้ 445 คน

เพิ่มข้อมูล

เหรียญหลวงปู่มั่น รุ่น ลายเซ็นต์ วัดเจดีย์หลวง




  ส่งข้อความ



ชื่อพระเครื่อง
เหรียญหลวงปู่มั่น รุ่น ลายเซ็นต์ วัดเจดีย์หลวง
รายละเอียด
เหรียญหลวงปู่มั่น รุ่น ลายเซ็นต์ พ.ศ. 2546 วัดเจดีย์หลวง บล็อควัดป่าดาราภิรมย์ สภาพสวย พิธีดี หลวงตามหาบัว อธิฐานจิตพร้อมกับพระสายหลวงปู่มั่นและสายเหนือ ๓๕๐ รูป
เหรียญหลวงปู่มั่น รุ่น ลายเซ็นต์ พ.ศ. 2546 วัดเจดีย์หลวง สภาพสวย พิธีดี เป็นเหรียญรุ่นที่หลวงตาม หาบัวอธิฐานจิต แน่นอนครับ

พ่อแม่ครูอาจารย์ผู้ปลุกเสก หลวงตามหาบัว หลวงปู่จันทร์ หลวงพ่อประสิทธิ์ หลวงปู่ท่อน หลวงพ่อวิริยังค์ หลวงปู่ละมัย หลวงปู่บุญหนา หลวงปู่เพียร หลวงปู่ลี และเกจิสายป่าฯลฯ รวม 350 รูป พุทธคุณที่เขาว่าถึงประสบการณ์คือใช้ถอนมนต์ดำคุณกระทำผีร้ายต่างๆตลอดจนหนุนดวงมีโชคลาภ มีเมตตามหานิยม และแคล้วคาดปลอดภัย ใช้ดีจนไม่ค่อยพบเห็นในเว็ปและนอกเว็ปครับ เนื้อนวโลหะ นอกจากนี้ยังผสมชนวนเหรียญ ป มาลากุล ที่เชื่อว่าหลวงปู่มั่นท่านได้อธิฐานจิตเหรียญรุ่นนี้ด้วยครับ

เหรียญ”ลายมือลายเซ็น”หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่"พุทธวงศ์"ได้สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2546 ซึ่งนับเป็น รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ ที่ได้อัญเชิญ”ลายเซ็น” และ”ลายมือ”บันทึกธรรม ตลอดจน”อักขระยันต์หัวใจยูงทอง”แท้ๆ ที่หลวงปู่มั่น ได้เขียนไว้ด้วยองค์เอง มาบรรจุไว้ในเหรียญ”ภูริทัตโตอนุสรณ์”อย่างสมบูรณ์แบบและสวยงามที่สุด อย่างที่ไม่อาจจะหาเหรียญหลวงปู่มั่น รุ่นใดๆ มาเสมอเหมือนได้
ด้านหน้า จะแกะเป็นรูปหลวงปู่มั่น ครึ่งองค์ แวดล้อมด้วยอักขระยันต์ “นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุติยา” พร้อมด้วยลายเซ็น”พระภูริทัตตเถร” ลายมือดั้งเดิมของท่านเองแท้ๆ
ส่วนด้านหลัง ได้อัญเชิญลายมือ”บันทึกธรรม”ของหลวงปู่มั่น ที่ว่าด้วยเรื่อง”ขันธวิมุติสมังคีธรรม” มาประดิษฐานเป็นมหา”ธรรมมงคล”อันสูงสุดไว้จนเต็มเนื้อที่ อย่างสวยงามและได้อารมณ์แห่ง”ความหลุดพ้น”อย่างเต็มๆ ชนิดที่ไม่ต้องไปหาอะไรที่จะยิ่งกว่าได้อีกแล้ว
แม้เหรียญ”ลายมือลายเซ็น”รุ่นนี้ จะมีเนื้อทองคำ,เนื้อเงินเป็นพิเศษก็จริง แต่ก็มีเฉพาะเหรียญเนื้อนวโลหะและเนื้อทองผสม ที่ได้ผสมชนวนเหรียญ”ป.มาลากุล”อย่างแท้จริง
ส่วนพิธีการมังคลาภิเษกเหรียญลายมือลายเซ็น”ภูริทัตโตอนุสรณ์”รุ่นนี้ ได้กระทำอย่างพิเศษและยิ่งใหญ่ที่สุดโดยได้อัญเชิญเหรียญทั้งสิ้นขึ้นประดิษฐานข้างมณฑป”ทันตธาตุ” ของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ที่วัดเจดีย์หลวง จ. เชียงใหม่ ในมหาพิธียกช่อฟ้าพระวิหารพระอาจารย์มั่น เมื่อปีพ.ศ.2546 โดยพระวิหารหลังนี้ ได้สร้างทับตรงบริเวณที่พระอาจารย์มั่นเคยมาพำนักปฏิบัติธรรมสมัยที่ตามท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) มาที่วัดเจดีย์หลวงเพื่อราวปีพ.ศ. 2484

มหาพิธีในครั้งนั้น มีพระมหาเถรานุเถระอาวุโสที่เป็นศิษย์”สายตรง”ในท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต จำนวนมากอย่างเต็มรูปแบบไม่ต่ำกว่า 108 รูปด้วยกัน โดยได้รับความเมตตาจากท่านพระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี พระอริยเจ้าผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐสุดและเป็นศิษย์ที่ใกล้ชิดท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโตมากและนานที่สุดองค์หนึ่งเป็นองค์ประธานอธิษฐานจิตและยกช่อฟ้าด้วยองค์ของท่านเอง
เหรียญ”ภูริทัตโตอนุสรณ์” ซึ่ง"พุทธวงศ์"ได้ดำเนินการออกแบบ,จัดสร้างถวายเป็นอนุสรณ์ดังกล่าว ได้อัญเชิญไปประดิษฐานโยงสายสิญจน์อยู่ประชิดติดกับบุษบกที่ประดิษฐาน”อัฐิธาตุ”และ”ทันตธาตุ”ฟันกราม ของหลวงปู่มั่น ในพระวิหารซึ่งสร้างทับบริเวณ”กุฏิเก่า”ที่ท่านพระอาจารย์มั่น ได้เคยมาพำนักบำเพ็ญภาวนา อันเป็น”จุดศูนย์กลาง”แห่ง”มหาพลัง”และ”มหาบารมี”แห่งบรมพิธีทั้งปวง อันจะหาใดอื่นมาเสมอเหมือนมิได้อย่างแน่แท้ มีพระมหาเถระนุเถระทั้งสาย”กรรมฐาน”และ”เมืองเหนือ”ร่วมเจริญพระพุทธมนต์สมโภชโมทนาจำนวนมากถึง 350 รูปด้วยกัน แลดูอลังการละลานตาละลานใจไปทั่ว โดยมีท่านเจ้าคุณพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน แห่งวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี พระอัครอรหันต์เจ้าแห่งสยามประเทศ ซึ่งเป็นศิษย์ที่ใกล้ชิดที่สุดและรับถ่ายทอดปฏิปทาจากองค์หลวงปู่มั่นมามากที่สุดเป็น”องค์ประธาน”ในการพิธีทั้งปวงอย่างดียิ่งและสมบูรณ์แบบที่สุด
ทั้งนั้น เห็นจะเป็นทั้งในส่วนแห่งความ”กตัญญูผูกพัน”ส่วนตัวกับ”พ่อแม่ครูอาจารย์มั่น” ที่ลึกซึ้งยิ่งใหญ่อย่างไม่มีที่สิ้นสุดประการหนึ่ง
และทั้งด้วยฐานะที่ท่านหลวงตามหาบัวนั้น มีความผูกพันในฐานที่เป็น”ตุ๊เจ้าหลวง”ซึ่งเป็น”ศิษย์เก่า”ของวัดเจดีย์หลวงนี้มาแต่เดิมอีกประการหนึ่ง.....
เพราะท่านได้เล่าเรียนปริยัติธรรมจนสำเร็จเปรียญ 3 ประโยค จนได้ชื่อนำหน้าว่าเป็น”มหา” ก็บ่แม่นที่แผ่นดินอีสานบ้านเกิดของเพิ่นแต่อย่างใด
แต่”ตุ๊เจ้าหลวงบัว”ได้กลายเป็น”พระมหาบัว” กลับเป็นที่สำนักเรียนของ “วัดเจดีย์หลวง” ด้วยเหตุนี้ จึงไม่เป็นที่น่าแปลกและอัศจรรย์อันใดเลย ที่หลวงตามหาบัวท่านจะได้อธิษฐานจิต ”ทำน้ำมนต์”ในมหาพิธีนี้ให้อย่างเนิ่นนานเป็นพิเศษยิ่งกว่าพิธีใดๆทั้งสิ้น
ซ้ำท่านก็ยังได้”เป่า”ลมปราณสลับกับการเจริญพุทธคาถาลงในขันน้ำมนต์ศิลา ที่ผูกสายสิญจน์โยงไปถึงพระวิหารปู่มั่นและเหรียญ”ภูริทัตโตอนุสรณ์”นี้ถึง “3 ”ครั้ง 3 ครา สำทับให้อีกต่างหากด้วย!!!
ไม่เคยพบ ไม่เคยเห็นจากที่ใดมาก่อนเลย
จากนั้น เมื่อถึงคราวยกช่อฟ้าวิหารหลวงปู่มั่น เมื่อหลวงตามหาบัวผูกผ้าสีปิดทองที่ช่อฟ้าแล้ว ท่านก็เรียกหา”น้ำมนต์”ที่ท่านทำไว้เมื่อกี้ในทันที.........
เรื่องตอนนี้ เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ใน”ญานหยั่งรู้”ของหลวงตามหาบัวโดยแท้ โดยท่านพระครูปลัดสุวัฒนวรคุณ วัดป่าดาราภิรมย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นศิษย์ใกล้ชิดในท่านเจ้าคุณพระพุทธพจนวราภรณ์ (จันทร์ กุสโล) (ซึ่งเป็นศิษย์หลวงปู่มั่นและเป็นสหธรรมิกใกล้ชิดกับหลวงตามหาบัวมาแต่เดิม)เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวง องค์ปัจจุบันได้เล่าให้ผู้เขียนฟังว่า
”ตอนแรกนั้น หลวงตาท่านถามหาน้ำมนต์เพื่อมาพรมช่อฟ้า เจ้ารุ่ง(ศิษย์วัด)ไปคว้าเอาขันน้ำมนต์ที่ไหนมาก็ไม่รู้มาให้ หลวงตามหาบัวพอมองดูแล้วก็บอกปัดทันทีเลยว่า นี่ไม่ใช่น้ำมนต์ที่ท่านทำเมื่อกี้ ให้ไปเอาน้ำมนต์ของจริงที่ท่านเพิ่งทำมาให้เสียโดยทันที เลยต้องวิ่งกลับไปเอาขันน้ำมนต์แท้ๆมาแทนกันแทบไม่ทัน น่าอัศจรรย์ใจแท้ๆ ที่น้ำมนต์ธรรมดาๆ หลวงตาก็ยังรู้ได้ว่า นี่ไม่ใช่น้ำมนต์ที่ท่านทำ......”
”ตาใน”อันแจ่มใสของท่านหลวงตาพระมหาบัว ช่างน่ามหัศจรรย์โดยแท้
ก็ความ”พิเศษสุด”แห่งน้ำมนต์ที่ท่านเพิ่งทำสดๆเมื่อสักครู่ดังกล่าว คงจะ”ยูนีค”(unique)จนไม่อาจจะเอาน้ำมนต์อื่นใดมาทดแทนเป็นแน่
เผลอๆ “พระธรรมธาตุ”ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตตมหาเถระ จะได้รับการอัญเชิญมาสถิตเสถียรพร้อมกันนี้ด้วย ก็อาจเป็นไปได้อย่างยิ่งเลยทีเดียว
และตอนที่หลวงตามหาบัว ท่านกำลังยกช่อฟ้าพระวิหาร หลวงปู่มั่นอยู่นั่น ก็ได้ปรากฏเหตุอัศจรรย์ขึ้นอีกครา
ภาพๆหนึ่ง ที่ถ่ายในโอกาสบัดเดี๋ยวนั้น ปรากฏแสงรัศมีเป็น”สีรุ้ง”พุ่งวาบผ่านช่อฟ้าจากดวงอาทิตย์มา เห็นได้ถนัดตา น่าตื่นตาตื่นใจเป็นนักๆ
หากจะว่า เป็นแสงแดดยามบ่ายย้อนมา ก็อาจจะว่าได้
แต่เหตุที่น่าสงสัยก็คือ ทำไม จึงมีประกายสีรุ้งเจิดจ้าแต่เพียง”แถบเดียว”เป็นหลักใหญ่เท่านั้น
บริเวณขอบข้างอื่นๆ หามีไม่
แต่การดังนี้ ”ผู้รู้”ที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวได้ให้อรรถาธิบายในทันทีเลยทีเดียวว่า

และเมื่อหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนยกช่อฟ้าวิหารพระอาจารย์มั่นเสร็จ หลวงตามหาบัวถึงกับเทศน์ออกไมค์ต่อหน้าผู้คนนับพันที่มาร่วมพิธีในครั้งนั้นเลยทีเดียว อันมีใจความว่า
“ในพิธีอันเป็นมหามงคลในครั้งนี้ ได้มีเทวดามาร่วมอนุโมทนาสาธุการเต็มไปหมด ไม่ต่างอะไรกับตอนที่พระอาจารย์มั่นจะเดินทางกลับจากเชียงใหม่ไปยังภาคอีสานบ้านเกิดสมัยนั้น ท่านพระอาจารย์มั่นก็เคยบอกไว้เช่นกันว่า มีเทวดาเมืองเชียงใหม่มาส่งท่านด้วยความอาลัยอาวรณ์มากมายจนเหลือที่จะคณานับ แม้ในวันนี้ เทวดาก็มาร่วมอนุโมทนาในการยกช่อฟ้าวิหารพระอาจารย์มั่นมากดุจเดียวกัน..!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
หรือว่า ในมหาพิธีบรรจุพระทันตธาตุและยกช่อฟ้าวิหารพระอาจารย์มั่นในครานี้ “ท่าน”จะมาร่วมอนุโมทนาสาธุการด้วยจริงๆ???????
แต่....”หน่วยสืบราชการลับ”(ทางจิต) ซึ่งมีความแม่นยำสูงบางท่านก็กล่าวรับรองเมื่อได้สัมผัสพลังภายในเหรียญรุ่นนี้อย่างน่าตื่นตะลึงลานไม่น้อยว่า
“เหมือนกับพระอาจารย์มั่นมาอธิษฐานด้วยองค์เองเลย...!!!!!????!!!!!”
สมแล้ว ที่แม้แต่คุณสุธันย์ สุนทรเสวี สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสงคราม นักสร้างพระมือดีแห่งยุคยังต้องออกวาจาการันตีเหรียญ”ลายมือลายเซ็น” รุ่นนี้เลยทีเดียวว่า
“เหรียญรุ่นนี้ มีพลังเทียบเท่ากับเหรียญมั่นเสาร์รุ่นแรก (ที่กล่าวกันว่า พระอาจารย์มั่นได้อธิษฐานจิตด้วยองค์ของท่านเอง) เลยทีเดียวนะ..!!!!!!!!”
นึกหาสาเหตุด้วยใจที่เป็น “กลาง” แบบไม่เข้าข้างตัวเองอย่าง”เที่ยงธรรม”และ”ไม่อุตริมนุสธรรม”มากเกิน ก็พอที่จะอนุมานได้ว่า
“เหตุที่เหรียญลายมือลายเซ็นรุ่นนี้ มีพลังเหมือนกับพระอาจารย์มั่นมาอธิษฐานด้วยองค์เอง หรือ มีพลังเทียบเท่ากับเหรียญมั่นเสาร์รุ่นแรกนั้น อาจจะเกิดจากการที่ได้อัญเชิญเหรียญนี้ตั้งประชิดติดกับมณฑปพระทันตธาตุแห่งท่านพระอาจารย์มั่น ในมหาพิธีที่สุดยิ่งใหญ่ ซึ่งมีหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ศิษย์หัวแก้วหัวแหวนของท่านพระอาจารย์มั่นเป็นประธานกระมัง?????”
แต่...ก็ไม่ได้ตัดประเด็นที่ว่า “พระอาจารย์มั่น ท่านมาด้วย”ทิพยสภาวะ”หรือ “ธรรมธาตุ”(จิตพระอรหันต์ที่ดับขันธ์ไปแล้ว) จริงๆ.!!??!!
อนึ่ง เหรียญภูริทัตโตอนุสรณ์นี้ ได้มี 3 บล็อคหลังด้วยกัน แต่เข้าพิธีวัดเจดีย์หลวงพร้อมกันทุกแบบ เรียงจากซ้ายไปขวาดังนี้
1.บล็อค"พุทธวงศ์"(ธรรมขันธวิมุตติสมังคีล้วน) มีเนื้อทองคำ,เงิน,นวโลหะ,ทองผสม
2.บล็อควัดป่าดาราภิรมย์ (ที่ระลึกฉลองวิหารหลวง) มีเนื้อเงิน,ทองแดงรมดำ
3.บล็อควัดป่าศาลาปางสัก ดอยสะเก็ด เชียงใหม่ สร้างเป็นเนื้อทองแดงรมดำเนื้อเดียว
ราคาปัจจุบัน
1800
จำนวนผู้เข้าชม
1672 ครั้ง
สถานะ
ยังอยู่
โดย
ชื่อร้าน
พุทธพิมพ์
URL
เบอร์โทรศัพท์
0818158299
ID LINE
tuonly , 0818158299
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
3. ธนาคารกรุงเทพ / 146-0-55888-3
4. ธนาคารไทยพาณิชย์ / 406-5-16595-4




กำลังโหลดข้อมูล

หน้าแรกลงพระฟรี